ขั้นตอนการละหมาดต่าง ๆ คำกล่าวพร้อมกับคำเนียต (โดยละเอียด)
วิธีละหมาดฟัรดูประจำวัน
การละหมาดฟัรดูที่มุสลิมทุกคนจำเป็นต้องกระทำในวันหนึ่ง ๆ มีอยู่ 5 เวลา ดังจะกล่าวสรุปวิธีละหมาดตามขั้นตอนต่างๆของการละหมาดแต่ละเวลา คือ
วิธีละหมาดซุบฮิ
มี 2 ร่อกะอัต ให้ปฏิบัติตามลำดับดังนี้
>> ร่อกะอัตที่ 1
1. ให้เริ่มพิธีด้วยการยืนตรง เท้าห่างกันประมาณ 1 คืบ หันหน้าไปทางทิศ กิบลัต
สำหรับประเทศไทยหันไปทางทิศตะวันตก ตามองลง ตรงที่ที่จะกราบสุญูดข้างหน้า สำรวมจิตแน่วแน่มุ่งตรงต่ออัลเลาะฮ์ ซ. บ. และอ่านนำว่า
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ฟัรด็อด ซุบฮิ ร๊อกอะตัยนี่ อะดาอันลิ้ลลาฮี่ตาอ้าลา "
คำเนียต " ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูซุบฮี2 ร่อกะอัต ในเวลาเพื่ออัลเลาะฮฮ์ตะอาลา "
2. ตักบีรร่อตุลอิฮรอม คือยกมือทั้งสองข้างโดยแบฝ่ามือไปข้างหน้า ให้หัวแม่มือจรดหรืออยู่ระดับติ่งหูทั้งสองข้าง แล้วกล่าวคำว่า อ่านว่า " อัลลอฮู่อั๊กบัร "
ในชณะที่กล่าวคำ อัลลอฮู่อั๊กบัร ให้ตั้งเจตนา หรือนึกในใจ ( เนียต) ว่าข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูซุบฮ์ 2 ร่อกะอัต ในเวลาเพื่ออัลลอฮตะอาลา แล้วลดมือทั้งสองลงมากอดอกให้มือขวาทับข้อมือซ้าย
3. แล้วอ่านดุอา อิฟติตะฮ์ ดังนี้
อ่านว่า " อัลลอฮู่อักบัร กาบีรอ วัลฮัมดูลิลลาฮี่ ก้าซีรอ ว่าซุบฮานัลลอฮี่ บุครอเตา ว่า อ้า ซีลา วัจญะห์ตู้วัจฮี่ยาลิลลาซีย์ ฟ่าตอรอซซ่ามาว่าตี้วัลอัรฎ่อ ห้านีฟัมมุสลีเมาว์ ว่ามาอานา มีนัลมุชรีกีน อินน่าซอลาตี ว่านูซูกี ว่ามะห์ยาย่า ว่าม่ามาตี ลิลลาฮี่ ร้อบบิลอาล่ามีน ลาซ่ารีก้าล้าอู ว่าบิซาลีก้า อู้มิรตู้ว่าอานา มีนัลมุสลีมีน "
4. อ่านอะอูซุบิลลาฮ์ บิสมิลลาฮ์และซุเราะอ์ฟาติฮะห์จนจบ คือ
" อ้าอูซุบิลลาฮี่ มีนัสซัยตอนิรรอญีม "
บิสมิลลา ฮิรเราะห์ มา นีรรอฮีม
อัล ฮัมดูลิลลาฮีร้อบบิลอาลามีน อัรเราะห์มานิรรอฮีม มาลีกี้เยามิดดีน อี้ยากาน๊ะบูดู ว่า อี้ยากานัซตาอีน อิห์ดีนัซซี่รอตอลมุสตากีม ซีรอตอลลาซี นาอันอัมตาอาลัยเฮม ฆอยริลมัฆดูบีอาลัยเฮม วาล้าดดอลลีน อามีน
5. อ่านซูเราะห์ใดซูเราะห์หนึ่งจากอัลกุรอาน เช่น ซูเราะฮ์ อัลกาฟีรูน คือ
อ่านว่า " บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรรอฮีม
กุ้ลยา อัยยูฮัลกาฟีรูน ลาอ๊ะบูดูมาตะบูดูน ว่าลาอันตุม อาบี้ดูน่ามาอันตุม ว่าลาอาน่าอ่าบีดุมมาอ้าบัดตุม วาลาอันตุม อาบี้ดูน่ามาอะบุด ล่ากุมดีนุกุม วาลี่ยาดีน "
6. เมื่ออ่านซุเราะห์ เสร็จแล้วให้กล่าวว่า อ่านว่า " อัลลอฮู่อั๊กบัร "
พร้อมกับยกมือทั้งสองเหมือนกับการตั๊กบีรร่อตุ้ลอิฮรอม ในข้อ 2 แล้ว เอามือลง ก้มศรีษะ โดยโน้มตัวลงเอาฝ่ามือจบเข่า ให้ศรีษะและหลังอยู่ในระดับเดียวกัน เรียกว่า ร่อเกาะอ์ หรือรูกัวะอ์ หยุดนิ่งพร้อมกับอ่านตัลเบียะฮ์ คือ
อ่านว่า " ซุบฮ่านาร้อบบียัลอ้าซีม ว่าบี้ฮัมดิฮ "
7. เมื่ออ่านตัสเบียะฮ์จบเเล้วให้เงยขึ้นมายืนตรง ขณะที่กำลังที่เงยให้อ่านว่า
อ่านว่า " ซ่ามีอัลลอฮู่ ลี่มันห้ามีดะฮ์ "
พร้อม กับยกมือทั้งสองขึ้นเสมอไหล่เหมือนกับการตักบีร ครั้งแรก แล้วจึงลดมือลงแนบกับข้างตัวเรียกว่า เอี๊ยะติด๊าล ขณะที่ยืนตรงอยู่นี้ไห้อ่าน
อ่านว่า " ร็อบบ้านา ล้ากัลฮัมด์"
8. กล่าว อัลลอฮู่อั๊กบัร พร้อมกับลดตัวลงคุกเข่ากับพื้น เอา ฝ่ามือยีนลงที่พื้น่ ให้ปลายนิ้วมือขี้ตรงไปข้างหน้า แล้วก้มลงให้หน้าผากแนบลงกับพื้นและจมูกแตะพื้นปลายนิ้วเท้าแนบพื้น เรียกว่า สุญูด ให้หยุดนิ่งพร้อมกับอ่าน
อ่านว่า " ซุบฮาน่า ร็อบบียั๊ลอ๊ะอลาว่าบีฮัมดิฮ์ "
9. กล่าว อ่านว่า " อัลลอฮู่อั๊กบัร "
พร้อม กับเงยศรีษะจากการสุญูดขึ้นมานั่ง เรียกว่า นั่งระหว่างสองสุญูด ในการนั่ง ให้เอาตาตุ่มเท้าซ้ายรองก้น ให้ท้องนิ้วของเท้าขวายันพื้น ฝ่ามือทั้งสองวางบนเข่าแล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ร็อบบิฆ์ฟิรลี วัรฮัมนี วัรซุกนี วะฮ์ดีนี ว่าอาฟีนี วะฟู่อันนี
10. เมื่ออ่านจบแล้วจึงกล่าว อัลลอฮู่อั๊กบัร
พร้อมกับก้มลงสุญูดอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า สุญูด ครั้งที่ 2 อ่าน
อ่านว่า" ซุบฮาน่า ร็อบบียั๊ลอ๊ะอลาว่าบีฮัมดิฮ์ 3 ครั้ง เหมือนการสุญูดครั้งแรก"
11. เมื่ออ่านจบแล้วจึงเงยจากสุญูดครั้งที 2 พร้อมกับการกล่าว อัลลอฮู่อั๊กบัร
มายึนตรง เอามือกอดอกดังเดิม ที่ปฏิบัติมาตั้งแต่ข้อที่ 1-11 นี้เรียกว่า จบร่อกะอัตที่ 1
>> ร่อกะอัตที่ 2 ปฏิบัติต่อจากข้อ 11 คือ
12. อ่านบิ้สมิลละฮ์ซูเราะฮ์ฟาติฮะห์ และอามีน เหมือนที่กล่าวแล้วในข้อ 4 ทุกประการ
13. อ่านซูเราะห์ใดซูเราะฮ์หนึ่งจากอัลกุรอ่าน เช่น ซูเราะ อัลอิคลาส คือ
อ่านว่า " กุ๊ลฮูวัลลอฮู่ อ้าฮัด อัลลอฮุซซ่อมัด ลัมย่าลิด ว่าลัมยูลัด ว่าลัมย่ากุ๊ลล่าฮู กู้ฟูวันอ้าฮัด "
14. เมื่ออ่านซูเราะห์จบแล้วให้ตักบีรแล้วร่อเกาะอ์ โดยอ่านและปฏิบัติเหมือนข้อ 6 ทุกประการ
15. เอี๊ยะติด้าล โดยอ่าน และปฏิบัติเหมือนข้อ 7 ทุกประการ
16. ขณะที่ยืนตรงเสร็จจากการเอี๊ยะติด้าลเฉพาะการละหมาดซุบฮิมีสุนัตให้ยกมือทั้งสองขึ้นเพื่ออ่านดุอา ( ขอพร) เรียกว่า ดุอากุนูด คือ
อ่าน ว่า " อัลลอฮุมมะฮ์ ดินี ฟีมันฮ่าดัยต์ ว่าอาฟี่นีฟีมันอาฟัยด์ ว่าต้าวัลล่านี่ ฟีมันตาวัลลัยต์ ว่าบาริ๊กลี่ฟี่มาอ๊ะตอยด์ ว่ากิ๊นีบิ้เราะห์ม่าตี้ก้า ซัรร่อมาก้อฏอยต์ ฟ่าอินน่าก้าตั๊กฎี ว่าลายุกฎออาลัยต์ ว่าอินน่าฮูล่าย่าซิลลู่เมาวาลัยต์ ว่าลาย่าอิซซูมันอาดัยต์ ต้าบาร็อกตาร้อบบ้านา ว่าต้าอาลัยต์ฟ่าลากัลฮัมดู้ อาลามากอฎอยต์ อัซเตาฆ์ฟีรู่ก้าว่าอ้าตูบู้อีลัยก้า ว่าซ้อลลัลลอฮู่ อ้าลาซัยยี่ดี้นามู่ฮัมม่าดิว ว่าอ้าลาอาลีฮี่ ว่าเซาะห์บิฮี ว่าซัลลั้ม "
17. เมื่ออ่านดุอากูนุดเสร็จแล้วจึงกล่าว อัลลอฮู่อั๊กบัร แล้วก้มลงสุญูดโดยอ่านและปฏิบัติตามข้อ 8 เหมือนเดิม
18. นั่งระหว่างสองสุญูด โดยอ่านและปฏิบัติเหมือนข้อ 9 เช่นเดิม
19. สุญูดครั้งที่ 2 โดยปฏิบัติเหมือนข้อ 10
20. เมื่อเงยจากสุญูดครั้งที่ 2 พร้อมกับกล่าว อัลลอฮู่อั๊กบัร ให้นั่งลงเพื่ออ่านตะฮียาต
สำหรับ การละหมาดซุบฮิ การนั่งครั้งนี้เรียกว่า การนั่งตะฮียาตครั้งสุดท้ายเพราะเป็นการนั่งเพื่ออ่านตะฮียาตในร่อกะอัตสุด ท้าย ( ร่อกะอัตที่ 2)
วิธี นั่งตะฮียาตครั้งสุดท้ายซึ่งเรียกว่า การนั่งต้าวัรรุก คือนั่ง ให้ก้นราบกับพื้นเอาเท้าซ้ายสอดไปใต้แข้งของเท้าขวา ให้ท้องนิ้วขวายันกับพื้น เอามือวางบนขาอ่อนเสมอกับหัวเข่า กำมือขวาเพียง 4 นิ้ว สำหรับนิ้วขี้ไม่ต้องกำปล่อยให้ขี้ออกไปข้างหน้ายังที่สุญูดแล้วอ่านคำตะฮียัต
21. ในการนั่งตะฮียัตครั้งสุดท้ายนี้ ต้องอ่านทั้งคำตะฮียัตและบทซ่อละหวาด สำหรับคำอ่านตะฮียัต คือ
อ่านว่า " อัตต้าฮี้ยาตุ้ลมู่บาร่อกา ตุซซ่อล่าวา ตุซตอยยี่บาตู้ลิลาฮี่ อัซซ่าลามูอ้าลัยก้า อัยยู่ฮันน่าบี่ยู่ ว่าเราะห์ม่าตุ้ลลอฮี่ ว่าบ้ารอกาตู้ฮ์ อัซซ่าลามู่อ้าลัยนา ว่าอ้าลาอี้บาดิ้ลลาฮิสซอลีฮีน อัซฮ่าดู้อันลาอี้ลา ฮ่าอิลลัลลอฮู่ ว่าอัซฮ่าดู้อันน่ามูฮำม่าคั้รร่อซูลุ้ลลอฮ์ อัลลอฮุมม่า ซ้อลลี่อ้าลา ซัยยีดี้นามู่ฮำมัด "
22. เมื่ออ่านตะฮียัตจบให้อ่านบทซ่อละหวาดนี้ต่อไป อีก
อ่านว่า " ว่าอ้าลาอาลี่ซัยยี่ดี้นามู่ฮำมัด ก้ามาซ้อลลัยต้า อ้าลาซัยยีดี้นาอิ๊บรอฮีม ว่าอ้าลาอาลี่ซัยยี่ดี้นาอิ๊บรอฮีม ว่าบาริกอ้าลาซัยยี่ดี้นามู่ฮำม่าดิวว่าอ้าลาอาลี่ซัยยี่ดี้นามู่ฮำมัด ก้ามาบาร็อกต้าอ้าลาซัยยีดีนาอิ๊บรอฮีม ว่าอ้าลาอาลี่ซัยยีดี้นาาอิ๊บรอฮีม ฟิ๊ลอาล่ามีน่า อินน่าก้า ฮ่ามีดุมม่าญีด "
23. เมื่ออ่านซ่อล่าหวาดจบแล้วว จึงให้กล่าวสลามโดยกล่าวว่า
อ่านว่า " อัซซ่าลามู่อาลัยกุม ว่าเราะห์ม่าตุ้ลลอฮ์ " พร้อมกับผินหน้าไปทางขวาสุดและจึงกล่าวอีกว่า
อัซซ่าลามู่อาลัยกุม ว่าเราะห์ม่าตุ้ลลอฮ์พร้อมกับผินหน้าไปทางซ้ายสุด
เป็นอันว่าการละหมาดซุบฮิ 2 ร่อกะอัตก็เสร็จสิ้นลงเพียงนี้
24. เมื่ออ่านซ่อล่าหวาดจบตามข้อ 22 แล้วก่อนกล่าวสลาม จะอ่านดุอาก่อนให้สลามด้วยก็ยิ่งดี แต่จะไม่อ่านก็ได้เพราะเป็นสุนัต
จบละหมาดซุบฮิ
ดุอาและซิเกรหลังละหมาด
เมื่อละหมาดฟัรดูเสร็จแล้ว ควรอ่านดุอาและซิเกรหลังละหมาดเพื่อขอพร (ดุอา) และสรรเสริญ (ซิเกร) ต่อพระผูเป็นเจ้า โดยการอ่านดังนี้
1. อ่าน 10 ครั้ง (อย่างน้อย 3 ครั้ง)
อ่านว่า " ลาอิ้ลาฮ่าอิลลั้ลลอฮู่วะหด้าฮู ลาช่ารีก้าล่าฮู ลาฮุ้ลมุ้ลกู้ ว่าล่าฮุ้ลฮัมดู้ยูหยี ว่ายู่มีตู ว่าฮู่ว่าอ้าลากุ้ลลี่ชัยอิงก้อดีร "
2. หลังจากนั้นอ่านตามลำดับดังนี้ต่อไปนี้
อ่านว่า " อัซเต้าฆ์ฟี่รุ้ลลอฮ์ "
3. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " อัซเต้าฆ์ฟี่รุ้ลลอฮั้ลอ้าซีม อัลล่าซีย์ลาอี้ลาฮ่าอิ้ลลาฮู่วั้ลฮัยยุ้ลกอยยูม ว่าอ้าตูบู้อี้ลัยฮี่ "
4. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " อัลลอฮฮุมม่าอันตัซซ่าลาม ว่ามิงกัซซ่าลาม ว่าอี้ลัยก้าย่าอูดดุซซ่าลาม ฟ่าฮัยยี่นาร๊อบบ้านาบิซซ่าลาม ว่าอั๊ดคิ้ลญันน่าต้า ดารอซซ่าลาม ต้าบาร๊อกต้าร๊อบบ้านาว่าต้าอาลัยต์ ยาซั้นย่าลาลี วัลอิกรอม "
5. อ่าน
อ่านว่า " อ้าอูซูบิ้ลลาฮี มินัชชัยตอนิ้รรอญีม "
อ่านว่า " บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิ้รร่อฮีม "
6. แล้วอ่านฟาตีฮะห์ คือ อัลฮัมดูลิ้ลลาฮีรอบบิ้ลอาลามีน จนจบ
7.แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " วาอีลาฮู่กุม อีลาฮูววาฮี่ดุน วาอีลาฮาอิ้ลลาฮู่วัรเราะห์มานุรร่อฮีม อัลลอฮฮู่ลาอีลาฮาอิ้ลลาฮู่วั้ลฮัยยุ้ลกอยยูม ลาต๊ะคูซูฮูซี่นาตุน วาลาเนามุ้ลล่าฮูมาฟิซซ่ามาวาตี้ วามาฟิลอัรฎี มันซั้ลล่าซีย์ยีชฟ่าอู้อินด้าฮู อิ้ลลาบี้อิซนี่ฮี ย๊ะอ์ลามูมาบัยน่าอัยดีฮิมว่ามาค้อลฟ่าฮุม วาลายูฮีตูนา บี้ชัยอิม มินอิ้ลมีฮี อิ้ลลาบีมาชาอา ว่าซี่อ้ากุรซีย ยู้ฮูซซ่ามาวาตีวัลอัรฎอ วาลายาอูดูฮูฮิฟซูฮูมา วาฮูวัลอาลียุ้ลอาซีม "
อ่านว่า " ชาฮีดัลลอฮูอันนาฮู ลาอีลาฮาอีลลาฮูวัลมาลาอีกาตู วาอูลุลอิลมี กออีมังบิลกิซตี ลาอีลาฮาอิลลาฮูวัลอาซีซุลฮากีม อินนัลลาซีนาอินดัลลอฮิลอิสลามู กูลิ้ลลาฮุมมามาลิกัลมุลกี ตุติ้ลมุลกา มังตาชาอู วาตังซีอุลมุลกา มิมมังตาชาอู วาตูอิซซูมังตาชาอูวาตูซิลลูมังตาชาอู บียาดีกัลค้อยรูอินกาอาลากุลลีชัยอินกอดีร "
อ่านว่า " ตูลีญุลลัยลา ฟินนาฮารี วาตูลีญุลนาฮารอ ฟิลลัยลี วาตุครีญุลฮักกอ มีนัลมัยยีตี วาตุครีญุลมัยยีตา มีนัลฮักกี วาตัรซูกูมังตาชาอู บีค้อยรีฮีซาบ "
8. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ซูบฮานัลลอฮ (33 ครั้ง) โดยในครั้งที่ 33 ให้อ่านว่า "
อ่านว่า " ซุบฮานัลลอฮี วาบีฮัมดิฮ "
9. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " อัลฮัมดูลี้ลลาฮ 33 ครั้ง โดยในครั้งสุดท้าย ให้อ่านว่า "
อ่านว่า " อัลฮัมดูลิ้ลลาฮี ร๊อบบิลอาลามีนา อาลากุลลีฮาล "
10. แล้วจึงอ่าน 34 ครั้ง เพื่อให้ครบ 100 ครั้ง
อ่านว่า " อัลลอฮฮู่อักบัร "
11. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ลาอีลาฮาอิลลัลลอฮู วะฮด้าฮูลาซารี่ก้าล่าฮู ล่าฮุลมุลกู วาลาฮูลฮัมดู ยุฮยียูวายูมีตู วาฮูวาอาลากุลลีซัยอิ้งกอดิร วาลาเฮาลาวาลา กู้ววาตาอิ้ลลา บิ้ลลา ฮิลอาลี้ยีลอาซีม "
12. แล้วจึงอ่าน
อ่าน ว่า " อัลลอฮุมม่าซ้อลลี่อ้าลาซัยยี่ดีนามูฮัมม่าดิน อับดีก้า ว่าร่อซู ลี่กันนาบียีลอุมมี่ยี่ วาอาลาอาลี่ฮี่วาซอฮบีฮีวาซัลลัม กุลลามาซ่าการอกัซซ่ากี้รูนา วาฆ่าฟาลาอัน ซิกรีกั้ลฆ่อฟีลูน วาซัลลีมูวารอดียัลลอฮฮูตาอาลา อันซาดาตีนา อัซฮาบีซัยยิดินารอซูลลิลลาฮฮีอัจมาอีน วาฮัสบูนัลลอฮฮูวาเนี๊ยะมัลวากี่ลู่ ลาเฮาลาวาลา กู้ววาตาอิลลาฮบิลลาฮฮิ้ลอาลี้ยิ้ลอาซีม "
13. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " อัซเต้าฆ์พี่รุ้ลลอฮ 3 ครั้ง "
14. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ยาล่าตีฟู่ยากาฟีย์ ยาฮ่าฟีย์ซู่ยาชาฟีย์ " 2 ครั้ง
อ่านว่า " ยาล่าตีฟู่ยาวาฟีย์ ยาการีมู่อันตั้ลลอฮ์ " 1 ครั้ง
15. แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ลาอี้ลาฮ่า อิ้ลลัลลอฮ " 10 ครั้ง
16.แล้วจึงอ่าน
อ่านว่า " ลาอี้ลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮู่ มู่ฮัมม่าคุ้รร่อซูลุลลอฮี่ ก้าลี่มาตุ้ลฮักก์ อ้าลัยฮานะห์ยา น่ามูตู้ ว่าอาลัยฮา ว่าบี้ฮานุบอ้าซุ อินชาอัลลอฮต้าอาลา มินั้ลอามี่นีน่า บี้เราะห์ม่าติ้ลลาฮี่ ว่าการ่อมี่ฮี "
17. ต่อจากนั้น จงขอพรตามความปรารถนาของท่านหรือจะอ่านดุอานี้อีกก็ได้
อ่านว่า " บิสมิ้ลลาฮิรเราะห์มา นิรร่อฮีม อัลฮัมดู้ลิ้ลลาฮี่ร๊อบบิ้ลอาล่ามีน วัซซ่อลาตู้ วัซซ่าลามู่ อ้าลาอัชร่อฟิ้ลอัมบี้ยาอี้ วั้ลมุรช่าลีน ว่าอ้าลาอาลี่ฮี ว่าเซาะห์บีฮี อัจมาอีน "
อ่านว่า " อัลลอฮุมม่า ต้าก๊อบบั้ลมินนา ซ่อลาต้านาตามมะฮ์ เว้าฆ์ฟิรล่านา ซู่นูบ้านาอามมะฮ์ ว่าลาตู้อัซซิบนา เยามั้ลกิยามะฮ์ อินน่าก้าอ้าลากุ้ลลัชัยอิงก้อดีรอัลลอฮุมม่า ซั้ลลิมน่า ว่าซั้ลลิมดี่น่านา ว่าซั้ลลิมเตาฮีด้านา ว่าซั้ลลิมมะอ์รี่ฟ่าต้านา ว่าซั้ลลิมอัรวาอ่านาว่าซั้ลลิมอัจญ์ชาด้านา "
อ่านว่า " อัลลอฮุมมะฮ์ยีนา บื้ลอีมาน ว่าอ้ามิตนา บิ้ลอีมานวะห์ซุรนา บิ้ลอีมาน "
อ่านว่า " ร๊อบบ้านา เฟ้าฆ์ฟิรล่านา ซุ่นูบ้านา ว่ากัฟฟิรอันนา ซัยยี่อาตี้นา ว่าต้าวัฟฟ่านา ม่าอั้ลอับรอรี่ ร๊อบบ้านาด้อลัมนา อัมฟู่ซ่านา ว่าอินลัมตัฆฟิรล่านา ว่าตัรฮัมนา ล่าน่ากูนันน่า มี่นั้ลคอซีรีน ร๊อบบ้านาอาตี้นา ฟิรดุนยา ฮ่าซ่านะฮ์ ว่าฟิ้ลอ่าคี่รอตี้ ฮ่าซ่าน่าเดาว์ ว่ากี้นาอ้าซาบันนาร์ ว่าซ้อลล้อลลอฮู่ อ้าลาซัยยี่ดี้นา มู่ฮัมมาดิว ว่าอ้าลาอาลี่ฮี่ ว่าอัศฮาบี้ฮี ว่าซัลลัม ซุบฮาน่า ร๊อบบี้ก้า ร๊อบบิ้ลอิซซาตี้ อัมมาย่าซีฟูน ว่าซ่าลามุน อ้าลั้ลมุรซ่าลีน วั้ลฮัมดู้ลิลลาฮี่ ร๊อบบิ้ลอาล่ามีน "
ละหมาดสุนัต
ละ หมาดสุนัต คือละหมาดที่ศาสนาไม่บังคับ ใครจะละหมาดหรือไม่ละหมาดก็ได้ตามใจสมัครแต่การละหมาดสุนัตก็มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการทดแทนความบกพร่องของละหมาดฟัรดู และเพิ่มผลบุญของการละหมาดฟัรดูให้ดียิ่งขึ้น
ท่านนาบีมุฮัมมัด ซลฺ ได้กล่าวไว้มีความว่า
“ สิ่งแรกของบรรดาการงานของมนุษย์ที่จะต้องถูกสอบสวนในวันกิยามะฮ์ คือ การทำละหมาด โดยพระผู้เป็นเจ้าของเราจะมีโองการยังมะลาอีกะฮ์ว่า จงไต่สวนการละหมาดของบ่าวของข้าซิว่าถูกต้องก็จงบันทึกให้เขาว่าสมบูรณ์ หากละหมาดของเขามีข้อบกพร่อง ก็จงพิจารณาซิว่า เขาละหมาดสุนัตไว้หรือเปล่า หากเขาละหมาดสุนัตไว้ ก็จงบันทึกว่าละหมาดฟัรดูของเขาสมบูรณ์ถูกต้องเพราะผลของการละหมาดสุนัตของ เขาและให้ถือว่าการงานอื่น ๆ ของเขา ก็สมบูรณ์ถูกต้องด้วย
ละหมาดอีดิ้ลฟิตรี (ตรุษออกบวช)
1. ละหมาดอีดิ้ลฟิตรี (ตรุษออกบวช) มี 2 ร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาละหมาด เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์คล้อย สุนัตให้อ่านอุซ็อลลี ดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตะอี้อิ้ลฟัตร ร๊อกอะไตนิมะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
นึกในใจว่า " ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตอีดิ้ลฟิตร 2 ร่อกะอัต มะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
2. ละหมาดอีอิ้ลอัฎฮา (ตรุษฮัจยี) มี 2 ร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาละหมาด เริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์คล้อย สุนัตให้อ่านอุซ็อลลีดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตะ อีดิ้ลอัดฮา ร๊อกอะไตนิมะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
นึกในใจว่า " ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตอีดิ้ลอัดฮา มะมูมันลิ้ลลาฮีตะอาลา "
วิธีละหมาด (ฮารีรายอ) ทั้งสอง
1.ตักบีร คือ ให้ว่า อัลลอฮุอักบัร ในร่อกะอั๊ตแรก 7 ครั้ง ในร่อกะอั๊ตที่สอง 5 ครั้ง นอกจากตักบีรร่อตุ้ลเอี๊ยะห์รอมและตักเบรจะก้มลงไปร่อเกาะอ์ในร่อกะอั๊ต ที่หนึ่งที่สอง
2.ให้อ่านคัสแบะห์ในระหว่างตักเบร คือ (ตักเบร์ครั้งที่หนึ่ง ก็อ่านตัสแบะห์ครั้งหนึ่ง) ในร่อกะอัตที่หนึ่งอ่าน 6 ครั้ง ร่อกะอัตที่สองอ่าน 4 ครั้ง เฉพาะร่อกะอัตที่หนึ่งอ่านภายหลังจากอ่านดุอาอ์อิฟติตะห์แล้ว คือ ตัสแบะห์ดังต่อไปนี้
อ่านว่า " ซุบฮานั้นลอฮิ วัลฮัมดูลิ้ลลาฮิ วะลาอิลาลาฮะอิ้ลลัลลอฮุวัลลอฮุอักบัร วะลาเฮาละวะลากูวะตะ อิ้ลลาบิ้ลลฮิ้ลอะลียิ้ลอาซีม "
ละหมาดตะรอแวะห์
ละหมาดตะรอแวะห์มี 20 ร่อกะอั๊ต มี 10 สลาม คือทำครั้งละ 2 ร่อกะอั๊ต ให้สลามครั้งที่หนึ่ง จนครบ 20 ร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาตั้งแต่ละหมาดอิซาอ์เสร็จแล้วจนแสงอรุณขึ้น ในเดือนรอมะฎอน สุนัตให้อ่านอุซ็อลลีดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตัดตะรอวีฮิ ร็อกอะไตนิ มะอ์มูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา "
นึกในใจว่า " ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตะรอแวะห์ 2 ร่อกะอัต มะมูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา "
ละหมาดวิเตร
กำหนดเวลาละหมาดวิเตร ภายหลังจากละหมาดอีซาอ์แล้วจนแสงอรุณขึ้น ทำครั้งแรก 2 ร่อกะอั๊ต ครั้งสุดท้าย 1 ร่อกะอั๊ต ละหมาดวิเตรอย่างน้อย 1 ร่อกะอั๊ต อย่างมาก 11 ร่อกะอั๊ตและต้องทำเป็นคี่เสมอ (คือ 1,3,5,7,9,11)
สองร่อกะอั๊ต สุนัตให้อ่านว่าอุซ็อลลีดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตัลวิตริ ร๊อกอะไตนิ มะมูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา "
นึกในใจว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตวิเตร 2 ร่อกะอั๊ตมะมูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา
หนึ่งร่อกะอั๊ตตอนสุดท้ายอ่านว่าดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลีซุนนะตัลวิตริ ร็อกอะตัน มะอ์มูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา "
นึกในใจว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตวิเตร 1 ร่อกะอั๊ต มะมูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา
การอ่านซูเราะห์หลังจากอ่านฟาติฮะห์แล้ว ให้อ่านดังนี้
ร่อกะอั๊ตที่ 1 ให้อ่าน ซิบบิฮิสมะร็อบบีกั้นอะลา
ร่อกะอั๊ตที่ 2 ให้อ่าน กุ้ลยาไอยยู่ฮั้ลกาฟิรูน ดังต่อไปนี้
อ่านว่า " บิสมิ้ลลาฮิรเราะห์มานิรรอฮีม
กุ้ลยาไอยุฮั้ลกาฟิรูน ลาอะบุดุมาตะอ์บุดูน
วะลาอันตุมอาบิดูนะมาอะบุด วะลาอะนะอาบิคุมมาอะบัตตุม วะลาอันตุมอาบิดูนะมาอะบุด
ละกุมดีนุกุมวะลิยะดีน "
ร่อกะอั๊ตสุดท้าย ให้อ่าน กุ้ลฮุวัลเลาะห์ ดังต่อไปนี้
อ่านว่า " บิสมิ้ลลาฮิรเราะห์มานิรรอฮีม
กุ้ลฮูวัลลอฮุอะฮัด อัลลอฮุดซ่อมัด ลัมยะลิดวะลัมยูลัด วะลัมยากุ้ลละฮูกุฟุวัลอะฮัด
กับ กุ้ลอะอูซุบิร็อบบิ้ลฟะลัก " และ กุ้ลอะอูซุบิร็อบบิ้ลนาส จนจบทุกต้น
ละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิด
ละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิด คือการละหมาดสุนัต 2 ร่อ กะอัตสำหรับผู้ที่เข้าไปในมัสยิด ก่อนที่เขาจะนั่งควรละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิดเสียก่อน ท่านนบี ซ.ล.ได้กล่าวว่า เมื่อบุคคลใดเข้าไปในมัสยิดแล้ว ควรให้เขาะหมาด 2 ร่อกะอัตก่อนที่เขาจะนั่ง
วิธีละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิด ก็เหมือนกับการละหมาด 2 ร่อกะอัตธรรมดา แต่ก่อนเนียตควรอ่านนำว่า
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ซุนน่าตัดต้าอี้ย่าตัลมัสยิด ร๊อกอะตัยนี่ ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตะฮีย่าตุ้ลมัสยิด 2 ร่อกะอัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
ละหมาดดุฮา
ละหมาด ดุฮา เป็นละหมาดสุนัตชนิดหนึ่งกำหนดเวลาละหมาดเริ่มตั้งแต่หลังจากดวงอาทิตย์ขึ้น แล้ว จนกระทั่งควงอาทิตย์คล้อย แต่ที่ดีแล้ว ไม่ควรละหมาดให้สายมากนัก
ละหมาดดุฮานั้นให้ละหมาดไม่น้อยกว่า 2 ร่อกะอัต แต่ ไม่เกิน 8 ร่อกะอัต โดยละหมาด 2 ร่อกะอัตแล้วให้สลามทีหนึ่ง วิธีละหมาดก็เหมือนกับการละหมาด 2 ร่อกะอัต ธรรมดาแต่ก่อนเนียตควรอ่านนำดังนี้
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ซุนน่าตั๊ดดุฮา ร็อกอะไตนี่ ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตดุฮา 2 ร่อกะอัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
ละหมาดอิซติคอเราะฮ์
ละหมาดอิซติคอเราะฮ์ คือการละหมาดเพื่อขอต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เลือกสิ่งที่ดีให้เรา ทั้งนี้ท่านน่าบี ซ.ล.ได้ทรงกล่าวว่า “ อัลเลาะห์จะไม่ทรงให้ความชั่วกับผู้ที่ขอความดีจากพระองค์เลย
ท่านอีมามฆ่อซาลีได้กล่าวไว้ในหนังสือเอียะฮ์ยาอุลูมิดดีน ว่า “ ผู้ ใดตั้งใจที่จะประกอบการงานใด แต่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำสิ่งนั้นหรือละสิ่งนั้นดี แท้จริงเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านนบี ซ.ล.ได้ใช้ให้ผู้นั้นทำละหมาด 2 ร่อกะอัต” คือ ละหมาดอิซติคอเราะฮ์
วิธีละหมาดอิซติคอเราะห์มี 2 ร่อกะอัตปฏิบัติเหมือนกับการละหมาดธรรมดา อ่านนำว่า
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ซุนน่าตั้ลอิซตี้คอเราะห์ร๊อกอ้าตัยนี่ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัต อิซติคอเราะฮ์ 2 ร่อกะอัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
ร่อกะอัตที่ 1 หลังจากอ่านฟาติฮะห์แล้ว ให้อ่าน กุ้ลยาอัยยู่ฮัลกาฟีรูน
ร่อกะอัตที่ 2 หลังจากอ่านฟาติฮะห์แล้ว ให้อ่าน กุ้ลฮูวั้ลลอฮู่อะฮัด
หลังจากให้สลามแล้ว ให้อ่านดุอานี้
ละหมาดตะฮัจญุด
ละหมาดตะฮัจญุดเป็นละหมาดสุนัตชนิดหนึ่ง ที่สำคัญยิ่งซึ่งท่านนบี ซล. ได้ละหมาดเป็นประจำแทบทุกค่ำคืน
กำหนดเวลาละหมาดตะฮัจญุดนั้นเริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึงแสงอรุณขึ้นแต่เวลาที่ดีเยี่ยมคือเวลาประมาณ 2.00 ถึง 3.00 น.
ละหมาดตะฮัจญุดมี 2 ร่อกะอัต วิธีละหมาดก็เหมือนกับการละหมาดประจำวันควรอ่านนำว่า
อ่านว่า " อู้ซ้อลลี ซุนน่าตั๊ดต้าฮัจญู่ดี้ ร๊อกอ้าไตนี่ ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าละหมาดสุนัตตะฮัจญุด 2 ร่อกะอัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
การนั่งเอียะติกาฟ
การนั่งเอียะติกาฟ คือการนั่งพักสงบในมัสยิด โดยการสำรวมทั้งกายและจิตใจ ท่านนบี ซ.ล.ได้ทรงกล่าวไว้มีความว่า “ ผู้ใดทำการเอียะติกาฟด้วยความศรัทธา และเพื่อขอผลความดีอัลเลาะห์จะทรงโปรดอภัยให้กับเขาในบาปกรรม ที่เขาได้เคยกระทำ
วิธีเอียะติกาฟนั้นจะต้องมีเนียต คือ มีการมุ่งสำรวมจิตว่า จะนั่งเอียะติกาฟในมัสยิด
ก่อนเนียตนั้น จะอ่านนำก่อนก็ได้คือ
อ่านว่า " น่าวัยตู้อันอ๊ะอ์ต้ากี้ฟ่า ฟีย์ฮาซั้ลมัสยี่ดี้ ซุนน่าตันลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
เนียตว่า ข้าพเจ้าตั้งใจเอียะติกาฟในมัสยิดนี้ ซึ่งเป็นสุนัต เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
การละหมาดวันศุกร์
การ ละหมาดวันศุกร์ เป็นฟัรดูที่จำเป็นเฉพาะผู้ชายมุสลิมทุกคนที่เป็นอิสระ ไม่ใช่ทาส ซึ่งบรรลุนิติภาวะพร้อมทั้งมัสติสัมปชัญญะรู้สึกรับผิดชอบ ซึ่งไม่มี กรอุปสรรคจำเป็นใดๆมาขัดขวาง เช่น การป่วยไข้ ฯลฯ การละหมาดวันศุกร์ เป็นการละหมาด บัร ยะ มา อะห์ (ละหมาดรวม) มี 2 ร่อ กะอั๊ต โดยถือเอาสองคุตบะห์แทนสองร่อกะอั๊ต กำหนดเวลาละหมาดวันศุกร์ นับแต่เวลา พระอาทิตย์คล้อย จนถึงเงาของสิ่งหนึ่งเท่าตัวของมัน สุนัตให้อ่าน อุซ็อลลีดังนี้
อ่านว่า " อุซ็อลลี ฟัรด็อลญุมุอะติ ร๊อกอะไตนิ มะอ์มูมันลิ้ลลาฮิตะอาลา "
ต้องนึกในใจว่า ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูญุมอะห์ 2 ร่อกะอั๊ต เป็นมะอ์มูมเพื่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา
การละหมาดของคนที่เดินทางไกล
การละหมาดของผู้ที่เดินทางไกลนั้นมีบทบัญญัติให้ได้รับการผ่อนผันโดยลดจำนวนร่อกะอัต ของการละหมาดฟัรดูประจำวันชนิดที่มี 4 ร่อกะอัตลดลงเหลือ 2 ร่อกะอัต เราเรียกการละหมาดชนิดนี้ว่า “ ละหมาดก้อซ้อร์” (ละหมาดลดจำนวน) ส่วนละหมาดชนิดที่มีเพียง 3 หรือ 2 ร่อกะอัต จะละหมาดก้อซ้อร ไม่ได้
ผู้เดินทางไกลนอกจากได้รับการลดจำนวนรอกะอัตในละหมาดแล้วยังได้รับการผ่อนผันให้รวมละหมาดฟัรดู 2 เวลาที่ใกล้เคียงกันเอาไว้ในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย เราเรียกว่าการละหมาดญะมาอะห์ (ละหมาดรวม)
>> 1. การละหมาดก้อซ้อร์
ผู้เดินทางที่จะละหมาดก้อซอร์ได้นั้น จะต้องมีเงื่อนไขหลายประการดังนี้
- การเดินทางไกลนี้ จะต้องเป็นการเดินทางที่มีวัตถุประสงค์ไม่ผิดศาสนบัญญัติ เช่น ไม่ใช่เดินทางเพื่อไปลักทรัพย์ของผู้อื่นฯลฯ
- ต้องเป็นการเดินทางไกล บางท่านว่าต้องมีระยะไม่น้อยกว่า 80 หรือ 90 กิโลเมตร
- การลดจำนวนร่อกะอัต (ก้อซ้อร์) นี้จะทำได้เฉพาะการละหมาดที่มี 4 ร่อกะอัต เท่านั้น
- การเนียตละหมาดก้อซอร์ ให้เนียตในขณะกล่าวตักบีร เริ่มละหมาด
- ห้ามละหมาดก้อซ้อร์โดยเป็นมะมูมของอีมามที่ไม่ได้ละหมาดก้อซ้อร์
การทำละหมาดก้อซ้อร์ ควรทำพร้อมกันไปกับการทำละหมาดญะเมาะอด้วย
>> 2. การละหมาดญะเมาะอ (ละหมาดรวม)
การละหมาดญะเมาะอ์ ซึ่งคนเดินทางไกลได้รับการผ่อนผันให้รวมเอาการละหมาดฟัรดู 2 เวลาเข้าด้วยกันนั้น อนุญาตให้รวมได้ 2 ชนิดคือ
รวมในเวลาแรก เรียกว่า ญะเมาะอ์ ตักดีม
รวมในเวลาหลัง เรียกว่า ญะเมาะอ์ ตะอ์คีร
แต่มีเงื่อนไขว่าละหมาดที่จะรวมกันได้นั้น คือละหมาดดุฮ์รีร่วมกับอัสริ และมักริบรวมกับอิซาเท่านั้น จะรวมกันโดยวิธีอื่นไม่ได้
>> 2.1 ญะเมาะฮ์ตั๊กดีม (การรวมในเวลาแรก)
มีเงื่อนไขดังนี้
- ต้องเนียตว่าเอาละหมาดอัสริมารวมกับดุฮริ หรือเอาอิซามารวมกับมักริบ
- ต้องละหมาดดุฮ์ริก่อนอัสริในเวลาดุฮ์ริ หรือละหมาดมักริบก่อนอิซาในเวลามักริบ
- การต้องละหมาดที่รวมกันระหว่างละหมาดแรกกับละหมาดหลัง อย่าให้ทิ้งห่างกันนานนัก
- กาเดินทางไกลต้องยังไม่ถึงจุดหมายก่อนที่จะตักบีร ละหมาดหลัง
วิธีละหมาดกอซ้อรและญะเมาะอ์ตั๊กดีมโดยอัสริรวมกับดุฮ์ริ
1. เมื่อถึงเวลาละหมาดดุฮ์ริ ให้ละหมาดดุฮ์ริ 2 ร่อกะอัต โดยเนียตว่า
อ่านว่า " อุซ้อลลีฟัรด๊อลดุฮ์ริ ร๊อกอะไตนี่ ก๊อซรอน มัจญ์ มูอันอิลั้ลอัสรี่ อะดาอัน ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูดุฮ์ริ 2 ร่อกะอัตโดยก้อซ้อรมารวมกับอัสริ ในเวลาเพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
เมื่อละหมาดเสร็จและให้สลามแล้วจึงควรลุกขึ้นละหมาดอัสริต่อไปโดยเนียตว่า
อ่านว่า " อุซ้อลลี ฟัรด็อลอัสริ ร๊อกอะไตนี่ ก็อซรอน มัจญ์ มูอันอิลัดดุฮ์ริ อะดาอัน ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูอัสริ 2 ร่อกะอัต โดยก้อซ้อรไมรวมกับดุฮ์ริ ในเวลา เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
ส่วน การละหมาดอิซารวมกับละหมาดมักริบในเวลามักริบนั้นก็ใช้วิธีเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนการเนียตว่า ละหมาดมักริบโดยก้อซ้อร์ รวมกับอิซาแล้วละหมา 3 ร่อกะอัต จึงให้สลาม แล้วจึงเนียตละหมาดอิซา โดยก้อซ้อรรวมกับมักริบ แล้วละหมาด 2 ร่อกะอัต จึงให้สลาม
>> 2.2 ญะเมาะอ์ตะอคีร (การรวมในเวลาหลัง)
มีเงื่อนไขดังนี้
- ต้อง เนียตในเวลาของละหมาดแรก คือต้องเนียตในเวลาของดุฮ์ริว่าจะเอาละหมาดดุฮ์ริไปทำรวมกับละหมาดอัสริหรือ ต้องเนียต ในเวลาของมักริบว่าจะเอาละหมาดมักริบไปทำรวมกับละหมาดอิซา
- ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับการละหมาดและไม่ต้องละหมาดติดต่อกัน
- การเดินทางต้องไม่ถึงจุดหมายก่อนเสร็จการละหมาดทั้งสอง
วิธีละหมาดก้อซ้อรและญะเมาะอ์ตะคีร โดย ดุฮ์รีรวมกับอัสริ
เมื่อถึงเวลาอัสริ ให้ละหมาดอัสริ 2 ร่อกะอัต โดยเนียตว่า
อ่านว่า " อุซ้อลลี ฟัรด็อลอัสริ ร๊อกอะไตนี่ ก็อซรอน มัจญ์ มูอันอิลัยฮีซดุฮ์รู่ อะดาอัน ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูอัสริ 2 ร่อกะอัต โดยก้อซ้อรไมรวมกับดุฮ์ริ ในเวลา เพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
เมื่อละหมาดเสร็จและให้สลามแล้ว จึงควรลุกขึ้นละหมาดดุฮ์ริต่อไปโดยเนียตว่า
" อุซ้อลลีฟัรด๊อลดุฮ์ริ ร๊อกอะไตนี่ ก๊อซรอน มัจญ์ มูอันอิลั้ลอัสรี่ อะดาอัน ลิ้ลลาฮี่ตะอาลา "
ข้าพเจ้าละหมาดฟัรดูดุฮ์ริ 2 ร่อกะอัตโดยก้อซ้อรมารวมกับอัสริ ในเวลาเพื่ออัลเลาะห์ตะอาลา
หรือ จะสลับกันก็ได้ โดยเมื่อถึงเวลาละหมาดอัสริ จะละหมาดดุฮ์ริก่อนแล้วละหมาดอัสริทีหลัง ส่วนการละหมาดมักริบมารวมกับอิซาในเวลาอิซานั้นก็ใช้วิธีเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนชื่อละหมาดและจำนวนร่อกะอัตของละหมาดมักริบเท่านั้น.
บรรณานุกรม
การีม อับดุลเลาะฮ์. คู่มือมุสลิมเบื้องต้น : เป็นหนังสือเกี่ยวกับ เรื่องศาสนาและวิธีปฏิบัติ (ตามแนวทางซุนนะฮ์วัลญะมาอะห์). วงศ์เสงี่ยม : กรุงเทพฯ. 2522.
การนมาซ. [ม.ป.ป.]. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2548, จาก https://www.siamic.com/ibadat/namaz.htm
การนมาซ. [ม.ป.ป.]. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2548, จาก https://www.al-shia.com/html/thi/ahkam/namaz.htm
ภาพประกอบ
สแกนจากหนังสือคู่มือมุสลิมเบื้องต้น เรื่องศาสนาและวิธีปฏิบัติ ( ตามแนวทางซุนนะฮ์วัลญะมาอะห์ ). วงศ์เสงี่ยม กรุงเทพฯ. 2522.
การนมาซ. [ม.ป.ป.]. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2548, จาก https://www.siamic.com/
รวบรวมข้อมูลโดย : นักศึกษาสหกิจศึกษา สาขาวิชาการจัดการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
Tags: